ความผิดปกติด้านความจำสัตว์

     โรคอัลไซเมอร์ในสัตว์เลี้ยงหรือเรียกให้ถูกต้อง คือ โรคสมองเสื่อมในสุนัข (Cognitive dysfunction syndrome หรือ CDS) พบได้บ่อยโดยเฉพาะในสุนัข แต่ยังพบได้น้อยในแมวในประเทศไทย ซึ่งช่วงอายุที่สามารถพบได้ ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงเริ่มมีอายุ 7-8 ปีขึ้นไป

​

มีอาการที่เรียกย่อๆว่า DISHA คือ

D - Disorientation : อาการสับสน มึนงง หลงลืม หรือความสามารถในการรับรู้ลดลง

I  - Interaction : มีการตอบสนองลดลง หรือ เพิกเฉย ไม่สนใจ

S - Sleep : สุนัขนอนกลางวันมากขึ้น และตื่นช่วงกลางคืน

H - House-solling : การขับถ่ายไม่เป็นที่

A - Activity,Anxiety : เล่นลดลง ก้าวร้าว และกระวนกระวาย

​

สาเหตุการเกิดโรคอัลไซเมอร์

    การเกิดของโรคนี้มีอยู่หลายปัจจัย เช่น สารอาหารที่มีแนวโน้มก่อให้เกิดโรค ได้แก่โปรตีนเบต้าอะไมลอยด์ (B – amyloid หรือ AB) หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของสารพันธุกรรมบางชนิด หรือในสุนัขที่มีอายุมาก ซึ่งเกิดจากการฝ่อของเซลล์สมองเมื่อสุนัขอายุมากขึ้น อาจมีผลให้เซลล์ประสาทเกิดความเสียหาย ทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

 

ลักษณะอาการ                

    สุนัขที่เป็นโรคนี้มักจะมีอาการมึนงง หลงทิศทาง ปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของเปลี่ยนไป วงจรการหลับและตื่นแปลกผิดปกติไป สูญเสียการดูแลสุขลักษะของตัวเอง ขับถ่ายไม่เป็นที่ อาจจะมีอาการย้ำคิดย้ำทำ เดินวนไปมาเป็นวงกลม สูญเสียจุดหมาย

​

การรักษา                     

    การรักษาโรคสมองเสื่อมในสุนัขปัจจุบันมีการศึกษาการใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังไม่มียาที่จำเพาะในการรักษาโรคให้หายได้ การรักษาโรคอัลไซเมอร์ในสัตว์เลี้ยงจึงเน้นไปที่การชะลอการตายของเซลล์สมอง โดยการวินิจฉัยประเมินความรุนแรงของโรค ประกอบกับการให้ยาหรือสารเข้าไปขัดขวางกระบวนการของโรค เช่น การใช้สารต้านอนุมูลอิสระ สารบำรุงการทำงานของเซลล์สมอง ยาลดอักเสบ วิตามินบำรุงประสาท เป็นต้น

​

การป้องกัน                     

    วิธีป้องกัน คือ หากทราบแล้วว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการดังกล่าว เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมควรรีบนำน้องมาพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และให้การรักษาอย่างหนึ่งที่สามารถทำได้คือการเสริม “สารต้านอนุมูลอิสระ” ให้แก่สัตว์เลี้ยง โดยสารต้านอนุมูลอิสระนี้ไม่ได้ให้เพื่อยับยั้งการเกิดโรค แต่เพื่อป้องกันและลดความเสียหายต่อเซลล์ประสาทไม่ให้เกิดความรุนแรงมากไป